watchworldcup.org

WATCHWORLDCUP.ORG
watchworldcup

เซาธ์เกตระบุผลงานในฟุตบอลโลกตัดสินอนาคตไปต่อหรือแยกทาง

แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ยืนยันว่าระยะสัญญาการคุมทีมไม่มีความหมายหากผลงานในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายออกมาย่ำแย่
เซาธ์เกต วัย 52 ปี มีสัญญากับอังกฤษจนถึงกลางปี 2024 ที่ผ่านมาเขาพาทีมชาติอังกฤษเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 และรอบชิงชนะเลิศยูโร 2020 มาแล้ว แต่ในช่วงที่ผ่านมา อังกฤษ อยู่ในสถานการณ์ตกต่ำในเรื่องของผลงานที่ไม่ชนะใครอย่างต่อเนื่อง และพวกเขาตกชั้นจากเนชั่นส์ ลีก เรียบร้อยแล้ว โดยมีเกมส่งท้ายในการพบกับทีมชาติเยอรมัน ซึ่งจะเป็นเกมสุดท้ายก่อนเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2022 ปลายปีนี้
ผมไม่ใช่คนโง่หรอกนะ ผมรู้ว่าชะตาของผมถูกกำหนดโดยผลงานในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย สัญญามันไม่มีความหมายอะไรในวงการฟุตบอล เพราะผู้จัดการทีมสามารถได้สัญญา 3-4-5 ปี แล้วแต่คุณจะได้รับ แต่หากผลงานออกมาไม่ดี คุณต้องเตรียมใจยอมรับว่ามันต้องแยกทางกันไป และผมจะแตกต่างกว่าคนอื่นตรงไหน การมีสัญญาเหลือมันไม่ได้ช่วยปกป้องอะไรผมได้จากผลงานของทีมหรอก
ฟุตบอลโลกที่กาตาร์ ผลลัพธ์ของมันจะเป็นการตัดสินผม และผมมีความสุขมากถ้าผมจะถูกตัดสินด้วยผลงาน สิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วมันก็ผ่านไปแล้ว ประวัติศาสตร์คือประวัติศาสตร์ คุณจะถูกตัดสินด้วยเกมต่อไป หรือทัวร์นาเมนต์ครั้งต่อไป มันเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ และมันเป็นความท้าทายใหญ่สำหรับการข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก
เซาธ์เกต รับงานคุมทีมชาติอังกฤษมาแล้ว 75 เกม ชนะ 48 เสมอ 13 แพ้ 14 ตลอดระยะเวลา 6 ปีของการคุมทีม

เซาธ์เกต รับเสียงวิจารณ์หลัง อังกฤษ ไร้ชัย 5 เกมรวด ระบุสวนกระแส ทีมเล่นดีแล้วแค่ไม่ชนะ


แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ กล่าวระบุว่าผลงานของทีมมาในทิศทางที่ถูกต้องแล้วแม้จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่ออิตาลี 1-0 พร้อมกับการตกชั้นไปเล่นในเนชั่นส์ ลีกสองแน่นอนแล้ว
จานโคโม ราสปาโดรี่ ยิงประตูโทนในเกมนี้ช่วงกลางครึ่งหลังเป็นประตูส่งอังกฤษไม่ชนะใคร5 เกมติดต่อกัน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา
มันเป็นเรื่องยากสำหรับผมที่จะมาวิจารณ์เกี่ยวกับประสิทธิภาพ ทีมครองบอลได้มากกว่า ยิงมากกว่า ยิงเข้ากรอบมากกว่า ส่วนใหญ่ของเกมเราเล่นได้ดีมาก แต่ผลการแข่งขันที่ออกมา มันเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญที่สุด แต่สำหรับผมเกมนี้มันมีหลายสิ่งในเชิงบวกสำหรับทีม
นักเตะมีหลายคนมีผลงานส่วนตัวที่ดีมาก ส่วนตัวผมคิดว่าประสิทธิภาพการเล่นอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง แน่นอนผลการแข่งขันมันไม่เป็นไปตามที่ต้องการเท่านั้น ผมยอมรับกับเสียงวิจารณ์ หลังจากเมื่อหนึ่งปีก่อนเราทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ผู้เล่นทุกคนในห้องแต่งตัวก็ทราบว่าเกมนี้พวกเขาเล่นกันได้ดีและควรชนะ”

ทั้งนี้อังกฤษยังคงมีปัญหาในเรื่องของการจบสกอร์พวกเขายิงไม่ได้มาแล้วสามเกมติดต่อกัน และนั่นเป็นสิ่งเซาธ์เกตต้องแก้ไขให้ได้ในเกมกับเยอรมัน ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายก่อนเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2022

อิตาลี 1-0 อังกฤษ เก็บตกประเด็นหลังเกม เนชั่นส์ลีก สิงโตคำราม ฟอร์มบู่หนักพ่ายเมื่อคืนวาน


ฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก 2022 คืนวันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2022 เวลาแข่งขัน 01:45 น. ตามเวลาประเทศไทย อิตาลี 1-0 อังกฤษ สนาม ซาน ซิโร

รูปเกมตลอด 90 นาที


ในการแข่งขันสำหรับเกมนี้ หากใครได้ติดตามดูเชื่อได้เลยว่าคงจะมีหลับในกันบ้างในช่วง 45 นาทีแรก เพราะทั้งสองทีมแทบจะทำอะไรกันไม่ได้เลยผลัดกันครองบอลเคาะบอลไปมาก็เสียบอล หาโอกาสเข้าพื้นที่อันตรายกันได้น้อยมาก ๆ ยังดีที่ครึ่งหลังเกมเปิดมากขึ้น แต่เป็น อิตาลี ที่ดูได้น้ำได้เนื้อมากกว่า ส่วน อังกฤษ เองก็มีโอกาสบ้างแต่กลับจบสกอร์ไม่ลง ซึ่งก็ต้องชมเกมรับของเจ้าบ้านที่เหนียวแน่นแบบไร้ที่ติ ความผิดพลาดแทบจะกลายเป็นศูนย์ ก่อนจะปิดฉากด้วยจังหวะวางยาวสวนกลับให้ ราสปาโดรี ใช้ความสามารถเฉพาะตัวยิงประตูชัยไปในที่สุด

อังกฤษ หมดสภาพ


นักวิจารย์หลายคน อาจจะบอกว่า เซาธ์เกต แค่ต้องการจะลองทีมก่อนถึงฟุตบอลโลก แต่ต้องบอกเลยว่านี่ก็แทบจะเป็นชุด ที่ดีที่สุด เท่าที่พวกเขามี ณ เวลานี้แล้ว ซึ่งจะโทษนักเตะอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะการแก้เกมของผู้จัดการทีมในวันนี้ก็ต้องบอกว่า “ไม่ผ่าน” คิดช้าทำช้า ในเมื่อเห็นตั้งแต่ครึ่งแรกแล้วว่าไม่สามารถเจาะคู่แข่งได้ ก็ยังคงดันทุรังเล่นแบบเดิมต่อในครึ่งหลัง แถมตัวเลือกบนม้านั่งก็มีหลายต่อหลายคนที่น่าจะเปลี่ยนเกมได้ แต่กลับเลือกเปลี่ยนตัวแค่สองนักเตะ โดยเป็นสองผู้เล่นฟอร์มตกอย่าง กรีลิช และ ชอว์ ซึ่งก็แทบไม่สามารถสร้างความแตกต่างใด ๆ ได้เลยจนต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด

การจัดตัวของ เซาธ์เกต ถูกตั้งคำถาม


อันที่จริงก็โดนวิจารณ์ตั้งแต่การเรียกตัวมาแล้วโดยเฉพาะในรายของ แฮร์รี แมคไกวร์ และ ลุค ชอว์ ที่ฟอร์มกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกทะเลจนต้องประจำการอยู่บนม้านั่งยาว ๆ แต่ทั้งสองคนกลับได้ลงสนามในเกมนี้ โดย แมคไกวร์ เป็นตัวจริงในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฝั่งซ้าย ซึ่งดูจะมีปัญหาพอสมควรในการรับมือกับ สกาแมคก้า ส่วน ชอว์ ลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ วอลเกอร์ และก็ไม่ได้ช่วยให้รูปเกมดีขึ้นเลย ยิ่งไปกว่านั้นการจับ บูกาโย ซาก้า มาเล่นเป็นวิงแบ็คซ้ายฝั่งเดียวกับ แมคไกวร์ ก็แทบไม่มีบทบาทแถมเกมรับยังหลุดตำแหน่งบ่อย ๆ อีกด้วย
อีกจุดที่ด้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัดจากที่เป็นจุดเด่นนั่นคือการที่พวกเขาไม่ยอมส่งผู้เล่นที่เล่นลูกเซ็ตเพลย์ดี ๆ ลงสนามมาแม้แต่คนเดียวทั้ง เจมส์ วอร์ด-พราวส์ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ หรือแม้แต่ คีแรน ทริปเปียร์ ที่อยู่บนม้านั่งข้างสนามทั้งหมด จึงทำให้ทุกครั้งที่พวกเขาได้เตะมุมหรือได้ฟรีคิกในพื้นที่หวังผลก็กลับคาดหวังอะไรไม่ได้เลยโดนอิตาลีที่เกมรับเหนี่ยวแน่นเป็นทุนเก็บกินสบาย ๆ แทบจะทั้งหมด

อังกฤษ ตกชั้น อิตาลี ลุ้นเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย


อีกหนึ่งคู่การแข่งขัน ที่เรียกได้ว่าผลการแข่งออกมาพลิกล็อคแบบไม่คาดไม่ถึง หลังจาก เยอรมนี เปิดบ้านโดน ฮังการี บุกมาตบถึงถิ่น 0-1 นั่นทำให้กลายเป็น ฮังการี ที่รั้งจ่าฝูงมี 10 คะแนนจาก 5 เกม โดยมี อิตาลี ที่หลังจากคว้า 3 คะแนนในเกมนี้บวกจากเดิมเป็น 8 แต้มรั้งอันดับสอง ซึ่งนัดสุดท้ายพวกเขาต้องบุกไปเยือน ฮังการี และนั่นจะเป็นเกมตัดสินว่าใครจะได้เข้ารอบต่อไป ด้าน อินทรีเหล็ก มี 6 คะแนนหมดลุ้นใด ๆ แล้วรั้งอันดับ 3 ของกลุ่มแน่นอน ขณะที่ อังกฤษ ผลงานสุดจะบรรยาย 5 เกมเก็บได้เพียง 2 คะแนนยังไม่ชนะใครและยังทำประตูจากโอเพ่นเพลย์ไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว แม้พวกเขาจะยังเหลือเกมในมือกับ เยอรมนี อยู่ แต่นั่นก็ไม่เพียงพอจะทำให้หนีพ้นจากบ๊วยได้ เท่ากับว่าปีหน้าเราจะได้เห็น ทัพสิงโตคำราม ลงไปเล่นในลีก B หรือลีกเทียร์สองของรายการนี้เป้นที่แน่นอนแล้วนั่นเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *