เหลืออีกเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้นศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย จะเปิดฉากขึ้นแล้ว โดยจะมีขึ้นในวันที่ 20 พ.ย.นี้ คู่เปิดสนามเป็นการฟาดแข้งในกลุ่มเอ กาตาร์ เจ้าภาพลงสนามพบกับเอกวาดอร์ เริ่มคิกออฟ 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ศึก “เวิลด์ คัพ” ครั้งนี้ถือว่าเป็นการจัดการแข่งขันที่ผิดไปจากเดิม เพราะปกติแล้วทัวร์นาเมนต์นี้จะฟาดแข้งกันในช่วงซัมเมอร์ หรือระหว่างเดือน มิ.ย.-ก.ค. แต่เนื่องจากในหน้าร้อนของกาตาร์มีอุณหภูมิสูงถึง 50 องศาจึงต้องโยกมาแข่งหน้าหนาวแทน ซึ่งการโยกมาแข่งกันในช่วงหน้าหนาวมันก็ส่งผลกระทบพอสมควรโดยเฉพาะการเตรียมทีมของชาติต่างๆที่ในห้วงเวลาปกติแล้วชาติต่างๆจะมีเวลาเตรียมทีมอย่างน้อยๆเกือบ 1 เดือนเลยทีเดียว
แต่พอมาครั้งนี้ทุกทีมชาติมีเวลาเตรียมทีมเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น เพราะมานับถึงตอนนี้ที่ นสพ.ฉบับนี้ถึงมือท่านผู้อ่าน ผู้เล่นชาติต่างๆยังโม่แข้งรับใช้สโมสรของตัวเองอยู่เลย
หลังจากเสร็จสิ้นวันอาทิตย์ทุกคนถึงค่อยบินกลับไปเก็บตัวกับทีมชาติต่อไป
นอกจากที่จะไม่มีเวลาเก็บตัวแล้ว ชาติต่างๆ ก็ยังเจอปัญหานักเตะตัวหลักๆบางรายโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานจนไม่สามารถช่วยทีมชาติบ้านเกิดได้กันหลายต่อหลายคน เนื่องจากคิวแข่งของสโมสรต่างๆในช่วงที่ผ่านมาแน่นเอี้ยดจนแทบไม่มีเวลาพักกันเลย
แต่อย่างไรก็ตาม จากรายชื่อส่วนใหญ่ที่หลายชาติประกาศออกมานั้นบรรดาซุปเปอร์สตาร์ในวงการลูกหนังก็ยังอยู่กันเกือบครบจึงทำให้เกม “เวิลด์ คัพ 2022” ในครั้งนี้ก็น่าจะมันไม่แพ้ครั้งไหน ๆ\
ซึ่งผลจับสลากแบ่งสายออกมาเป็นที่เรียบร้อยมีดังนี้ กลุ่มเอ : กาตาร์, เอกวาดอร์, เซเนกัล, ฮอลแลนด์, กลุ่มบี : อังกฤษ, อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา, เวลส์, กลุ่มซี : อาร์เจนตินา, ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก, โปแลนด์, กลุ่มดี : ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก, ตูนิเซีย, กลุ่มอี : สเปน, คอสตาริกา, เยอรมนี, ญี่ปุ่น, กลุ่มเอฟ : เบลเยียม, แคนาดา, โมร็อกโก, โครเอเชีย, กลุ่มจี : บราซิล, เซอร์เบีย, สวิตเซอร์แลนด์, แคเมอรูน, กลุ่มเอช : โปรตุเกส, กานา, อุรุกวัย, เกาหลีใต้ หลังจากรู้การแบ่งกลุ่มบวกกับเห็นโผรายชื่อทีมชาติออกมาแล้ว บรรดากูรูต่างๆหรือบริษัทพนันถูกกฎหมายต่างจะออกมาให้ทรรศนะว่าชาติไหนมีโอกาสเป็นแชมป์โลกมากที่สุด
ซึ่งเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์โลกในปีนี้คงไม่พ้น “แซมบ้า” บราซิล เจ้าของแชมป์โลก 5 สมัย เนื่องจากขุมกำลังของทัพ “เซเลเซา” นั้นค่อนข้างลงตัวมากๆ โดยเฉพาะแนวรุกชุดนี้ที่มีทั้งเนย์มาร์, วินิซิอุส จูเนียร์, กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี, ริชาร์ลิสัน, อันโตนี รวมทั้งราฟินญา เห็นชื่อแต่ละคนถึงกับร้องว้าวววและแอบสงสารแนวรับชาติคู่ต่อสู้เลย
เนื่องจากแนวรุกของแซมบ้า ชุดนี้แต่ละคนนั้นกำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มกับต้นสังกัดทั้งหมด เช่นเดียวกับตำแหน่งอื่นๆ ของแข้งแดนกาแฟก็แกร่งไม่ใช่เล่น ไม่ว่าจะเป็นกาเซมิโร, บรูโน กิมาไรส์, ลูคัส ปาเกตา, ฟาบินโญ, ติอาโก ซิลวา, มากินญอส, อลิสสัน เบคเกอร์ และเอแดร์สัน เรียกได้ว่าทุกคนอยู่ในลีกระดับท็อปเกือบแทบทั้งหมดแถมกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นทั้งนั้น
เมื่อนำทุกอย่างมาประกอบรวมกันจึงไม่น่าแปลกใจว่า “แซมบ้า” มีโอกาสสูงที่จะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6 มาครอง
ส่วนเต็ง 2 นั้นได้แก่ ตราไก่ ฝรั่งเศส แชมป์โลก 2 สมัยและแชมป์ครั้งล่าสุดที่ขุมกำลังค่อนข้างน่ากลัวไม่แพ้บราซิลเลยทีเดียว โดยเฉพาะแนวรุกนั้นรองจากแข้ง “แซมบ้า” ก็แนวรุกของทัพ “เลอ เบลอส์” ที่น่ากลัวไม่แพ้กันไม่ว่าจะเป็นคิเลียน เอ็มบัปเป, คาริม เบนเซมา, อองตวน กรีซมันน์, อุสมาน เดมเบเล และโอลิวิเยร์ ชิรูด์
เรียกได้ว่าแนวรุกชุดนี้ที่ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือ “ตราไก่” ดึงมาติดทีมเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างแข้งดาวรุ่ง, แข้งวัยกลางคน และแข้งวัยเก๋า ซึ่งในบางมุมอาจจะดีกว่าแนวรุกของบราซิลก็เป็นได้เพราะส่วนใหญ่แนวรุกของ “แซมบ้า” จะมีดาวรุ่งซะส่วนใหญ่เมื่อถึงเวลาจวนเจียนและคับขันอาจจะออกอาการลนลานก็เป็นได้
นอกจากแนวรุกแล้วขุมกำลังทุกส่วนของ ฝรั่งเศสก็ลงตัวไม่แพ้กัน แม้ว่าจะขาดปอล ป็อกบา และเอ็นโกโล ก็องเต 2 กำลังหลักก็ตาม แต่โดยรวมแล้วทางทัพ “เลอ เบลอส์” ก็มีโอกาสลุ้นแชมป์โลกสมัย 3 เช่นกัน
ด้านเต็ง 3 ที่หลายฝ่ายออกมายกให้เป็น สิงโตคำราม อังกฤษ ที่พัฒนาฟอร์มการเล่นของตัวเองมาได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่บอลโลก 2018 ที่จบอันดับ 4 ก่อนจะทะยานเข้าชิงชนะเลิศในยูโร 2020 แม้ว่าจะจบรองแชมป์ก็ตาม
ซึ่งจากประสบการณ์ 2 ครั้งล่าสุดทำให้บรรดากูรูต่างๆเชื่อว่าในครั้งนี้จะเป็นจุดที่พีกที่สุดที่จะพา “สิงโตคำราม” เถลิงแชมป์โลกมาครองได้ แต่หลังจากเห็นรายชื่อของทีมชาติอังกฤษที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ประกาศออกมาแล้วนั้นบอกตรงๆ ว่าเหนื่อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะแนวรับที่โดนปัญหาอาการบาดเจ็บไปหลายราย ที่เรียกมาก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดอาจจะเป็นบ่อให้ อังกฤษ โดนคู่ต่อสู้โจมตีได้
ส่วนเต็ง 4 ยกให้ “ฟ้า-ขาว” อาร์เจนตินา ทีมแกร่งจากแดนละตินที่ชุดนี้มีลิโอเนล เมสซี กองหน้าร่างเล็กวัย 35 ปี กัปตันทีมเป็นคนนำทัพ ส่วนเต็ง 5 เป็น “ฝอยทอง” โปรตุเกส ที่มีคริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงจอมเก๋าวัย 37 ปี ที่จะเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งสุดท้ายนำทัพ ส่วนเต็ง 5 เป็น “ฝอยทอง” โปรตุเกส ที่มีคริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงจอมเก๋าวัย 37 ปี ที่จะเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งสุดท้ายนำทัพ
นอกจากทั้ง 5 ชาติที่กล่าวมาแล้วก็ยังมีม้ามืดที่น่าจับตามมองไม่ว่าจะเป็น “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม, “กังหันลมสีส้ม” ฮอลแลนด์ และ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ที่ก็มีโอกาสปาดหน้าเข้าป้ายก็เป็นได้
อีกแค่ไม่กี่อึดใจก็จะได้รู้แล้วว่าใครจะเถลิงแชมป์โลกในครั้งนี้ต้องตามลุ้นไปด้วยกัน
