ทีมชาติโมร็อกโก เป็นอีกหนึ่งทีมชาติที่มีผลงานดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นทีมชาติที่แข็งแกร่งอีกหนึ่งทีมชาติ รับรองได้เลยว่าทุกท่านจะถูกใจอย่างแน่นอน วันนี้เราเลยจะมานำเสนอข่าวเกี่ยวกับ ทีมชาตโมร็อกโก ว่าที่ผ่านมานั้นมีผลงานและมีกุนซือเป็นใคร ที่จะนำทัพสู้ศึกษาฟุตบอลโลก 2022 ในครั้งนี้ มาดูกันวง่าผลงานที่ผ่านมาของทีมชาติ โมร็อกโก มีอะไรกันบ้างไปดูกัน
ผลงานที่ผ่านมาของทางทีมชาติโมร็อกโกมีอะไรบ้าง
โมร็อกโก ผ่านเวทีฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายมาแล้ว 5 ครั้งในปี 1970, 1986, 1994, 1998 และ 2018 โดยผลงานดีที่สุดของพวกเขาคือการเข้ารอบสอง หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายในปี 1986 ส่วนครั้งอื่นๆ จอดป้ายที่รอบแรกเท่านั้น สำหรับเส้นทางการเข้ามาสู่ฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเป็นเวิลด์คัพสมัยที่ 6 ของพวกเขา โมร็อกโกเริ่มจากการคว้าแชมป์กลุ่มไอ ในรอบคัดเลือก รอบสอง โซนแอฟริกา โดยเป็นทีมเดียวที่ชนะ 6 นัดรวด เก็บ 18 คะแนนเต็ม หลังจากนั้นปราบ ดีอาร์ คองโก ด้วยสกอร์รวม 5-2 ในรอบคัดเลือก รอบสาม กระชากตั๋วเตรียมตัวบินไปโชว์ฝีเท้าที่กาตาร์ได้สำเร็จ
กุนซือและผู้เล่นคีย์แมนของทางทีมชาติโมร็อกโก
การผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 โมร็อกโกต้องยกเครดิตสำคัญให้กับกุนซือ วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช แต่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลโมร็อกโก ตัดสินใจปลดเฮดโค้ชชาวบอสเนียรายนี้ออกจากตำแหน่ง ทั้งที่เหลือเวลาอีกแค่ 3 เดือนเท่านั้นศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายก็จะเปิดฉากขึ้นแล้ว สหพันธ์ฟุตบอลโมร็อกโก ระบุว่าพวกเขามีความคิดเห็นไม่ตรงกันในเรื่องการเตรียมทีม จึงจำเป็นต้องโบกมือลาแยกทางใครทางมัน ขณะที่สื่อรายงานว่าสาเหตุสำคัญคือ การที่ ฮาลิลฮอดซิช มีปัญหากับ ฮาคิม ซีเย็ค สตาร์ดังของทีม จนทำให้ ซีเย็ค ประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และไม่แน่ว่า เมื่อ ฮาลิลฮอดซิช ไม่อยู่แล้ว ดาวเตะจากเชลซีรายนี้อาจจะเปลี่ยนใจกลับมารับใช้ชาติอีกครั้งก็เป็นได้ สำหรับโค้ชที่เข้ามารับตำแหน่งแทน และเตรียมพาทีมไปลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย คือ วาลิด เรกรากี กุนซือวัย 46 ปี ซึ่งมีผลงานชิ้นโบแดงคือ การพาสโมสร “วีแดด คาซาบลานก้า” ผงาดทำดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 2021-22 โดยคว้าทั้งแชมป์ลีกโมร็อกโก และแชมป์สโมสรแอฟริกา ซึ่งเทียบได้กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของยุโรป ยังไงยังงั้น ขณะที่ขุมกำลังของโมร็อกโกถือว่าไม่ธรรมดา โดยมีผู้เล่นหลายคนที่ฝังตัวอยู่กับสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรป อาทิ โรแม็ง ซาอิสส์ (เบซิคตัส) นูสแซร์ มาซราอุย (บาเยิร์น มิวนิค) ซอฟยาน อัมราบัต (ฟิออเรนติน่า) ยูสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ (เซบีย่า) และ อาชราฟ ฮาคิมี่ แบ็กขวาจอมบุกวัย 23 ปีจากปารีส แซงต์-แชร์กแมง ฮาคิมี่ ถือเป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของโมร็อกโกยุคนี้ ด้วยดีกรีผ่านการค้าแข้งกับสโมสรดังมาแล้วทั้ง เรอัล มาดริด, ดอร์ทมุนด์, อินเตอร์ มิลาน จนปัจจุบันมาอยู่กับเปแอสเช นอกจากนี้ยังคว้าแชมป์และรางวัลเกียรติยศส่วนตัวมามากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งถ้าหาก ฮาคิม ซีเย็ค ตัดสินใจกลับมาทำเกมทางกราบขวาให้กับทีมชาติอีกครั้ง แฟนบอลจะได้เห็นการประสานงานกันระหว่าง ฮาคิมี่ และ ซีเย็ค ที่จะเป็นอาวุธเด็ดให้กับโมร็อกโกได้แน่นอน
วิเคราะห์โอกาสในการเข้ารอบครั้งต่อไปของทีมชาติโมร็อกโก
โมร็อกโก อยู่ในกลุ่มเอฟ ร่วมกับ เบลเยียม, แคนาดา และ โครเอเชีย ซึ่งถือเป็นงานหนักไม่น้อยของขุนพล “สิงโตแอตลาส” แต่ก็ใช่ว่าประตูเข้ารอบของพวกเขาจะปิดตายแต่อย่างใด แน่นอนว่า เบลเยียม ทีมแกร่งของยุโรป และ โครเอเชีย รองแชมป์เก่าจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เป็นสองทีมเต็งของกลุ่มนี้ที่จะได้ผ่านเข้ารอบ ส่วน แคนาดา ดูจะเป็นทีมที่อ่อนที่สุดในกลุ่ม ดังนั้นหาก โมร็อกโก สามารถมีแต้มติดมือสัก 2, 3 หรือ 4 แต้มจาก 2 เกมแรกที่จะพบกับ โครเอเชีย และ เบลเยียม จากนั้นไปเก็บเพิ่มอีก 3 แต้มให้ได้ในนัดสุดท้ายกับแคนาดา โอกาสเข้ารอบของพวกเขาก็มีไม่น้อยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลของโมร็อกโก คือการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้นแค่ 3 เดือน ซึ่งไม่รู้ว่าเฮดโค้ชคนใหม่อย่าง วาลิด เรกรากี จะปรับจูนและวางแทคติกให้กับทีมได้ดีมากน้อยแค่ไหนในเงื่อนไขเวลาอันกระชั้นชิดเช่นนี้
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ของทีมชาติโมร็อกโก
วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 17:00 น.
• โมร็อกโก VS โครเอเชีย : สนามอัล เบย์ท สเตเดี้ยม
วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 20:00 น.
• เบลเยียม VS โมร็อกโก : สนามอัล ธูมามา สเตเดี้ยม
วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม เวลา 22:00 น.
• แคนาดา VS โมร็อกโก : สนามอัล ธูมามา สเตเดี้ยม
