การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2022-23 วันที่ 5 มี.ค. คู่ไฮไลท์คือนัดที่ 212 ของ “หงส์แดง” รวมโปรแกรมทั้งหมด ปีศาจแดง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เกมแรกของฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ลิเวอร์พูล 7-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด [รายงานการแข่งขัน] – วิดีโอไฮไลท์ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านถล่มโหด แมนฯ ยูไนเต็ด หมดรูป 7-0
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2022-23 วันที่ 5 มี.ค. คู่ไฮไลท์คือนัดที่ 212 ของ “หงส์แดง” รวมโปรแกรมทั้งหมด ปีศาจแดง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เกมแรกของฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัย นำห่าง 2-1 โดยมี อันโตนี, บรูโน แฟร์นานเดส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นแกนหลักเกมในครึ่งแรกเป็นลิเวอร์พูลที่ครองบอลได้มากกว่า แต่แมนฯ ยูไนเต็ดมีโอกาสจบสกอร์ที่ดีกว่า นาทีที่ 42 คาเซมีโร่โหม่งบอลเข้าประตูจากลูกฟรีคิกทางซ้ายแต่โดนโรเบิร์ตสันตัดได้ . แนวรับทีมเยือนปล่อยให้ โคดี้ คาโป เจาะเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อน เคาะขวาหลบราฟาเอล วาราน หนึ่งจังหวะแล้วปั่นไปเสาสองผ่านมือดาบิด เดเคอา ก่อนจะจบครึ่งแรกอย่างสวยงามด้วยสกอร์ดังกล่าว เริ่มครึ่งหลังได้เพียง 2 นาที ลิเวอร์พูล ออกนำไปก่อน 2-0 จากจังหวะที่ทีมเยือนเคลียร์บอลไม่ขาดในกรอบเขตโทษ ก่อนที่บอลจะมาถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สุดเส้นที่ผู้ตัดสินเปิดให้ ลุค ชอว์ แต่บอลยังมาเข้าทาง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ล้มไปชนเสาให้ ดาร์ Vin Nuñez ซัดเข้าไปตุงตาข่ายนาทีที่ 50 เจ้าบ้านนำห่าง 3-0 จากจังหวะสวนกลับเร็ว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เลี้ยงบอลผ่านด้านขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนไหลให้ โกดี้ คาโป หลุดเข้าเขตโทษที่เจ้าตัวชิพ สามารถจ่ายบอลหลังจากน้ำผ่านมือของ ดาบิด เด เคอา ได้อย่างสวยงามพร้อมเป็นประตูที่สองของเกมอีกด้วยในนาทีที่ 66 ลิเวอร์พูลนำแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 4-0 จากการโต้กลับอีกครั้ง จากนั้น ดาร์วิน นูเนซ ส่งบอลเข้าเขตโทษ ซาลาห์ที่ยืนอยู่ในเขตโทษก่อนผู้ตัดสินโยนขวาโดยไม่แตะตาข่าย ขณะที่ดาบิด เดเคอาเซฟไว้ได้ในนาทีที่ 76 ออร์สันครอสจากเขตโทษด้านซ้ายไปโดนหัวของดาร์ วิน นูเนซ ซัดใส่ ดาบิด เด เคอา เป็นประตูที่สองของเขาในเกมเช่นกันนาทีที่ 83 ลิเวอร์พูลนำห่าง 6-0 จากจังหวะที่ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ กระชากบอลทางขวาของเขตโทษทีมเยือน ก่อนจ่ายให้โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่สัมผัสบอลไม่เก่ง แต่กองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตะเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยืนเคลียร์และวางด้วยขวาอย่างง่ายดายนาทีที่ 88 “หงส์แดง” นำห่าง 7-0 จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ผ่านบอลเข้าเขตโทษให้ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ จับบอลได้หนึ่งจังหวะก่อนจะตวัดด้วยขวาผ่านมือ เดวิด เด เคอา ซึ่งแม้แต่ ดิโอโก ดาโลต์ ก็ยังพยายามสกัดกั้นแต่ไม่สามารถเตะได้หลังจากนั้นก็ไม่มีใครทำอะไรได้อีก ลิเวอร์พูล ถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 7-0 ทำให้ “หงส์แดง” เก็บเพิ่มเป็น 42 แต้ม จาก 25 เกม ขึ้นรั้งอันดับ 5 ของตาราง ขณะที่ “ปีศาจแดง” จ่าฝูง มี 49 แต้ม จาก 25 เกม รั้งอันดับ 3 ของตาราง โต๊ะ.
ลิเวอร์พูล 7-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด [รายงานการแข่งขัน] – วิดีโอไฮไลท์ สถิติ 128 ปีถูกทำลาย “ลิเวอร์พูล” ยิง “แมนยูฯ” 7-0 ชนะสกอร์ขาดลอยสุด ศึกแดงเดือด
ชัยชนะครั้งนี้นับเป็นการเสียประตูที่กว้างที่สุดในประวัติศาสตร์ “ศึกแดงเดือด” แทนที่สถิติเดิมที่ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 7-1 ในศึกดิวิชั่น 2 (เก่า) เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2438 หรือ 128 ปีที่แล้อย่างไรก็ตามเมื่อรวมสถิติการพบกันในศึกแดงเดือดทั้งหมด 211 นัดรวมทุกรายการ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเก็บชัยชนะได้มากกว่า ลิเวอร์พูล ดังนี้
ลิเวอร์พูล 7-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด [รายงานการแข่งขัน] – วิดีโอไฮไลท์ รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม
- ทีมลิเวอร์พูล: อลิสซอน (GK), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โคนาเต, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ต เจ. ซาน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ฮาร์วีย์ เอลเลียต, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูเนซ, โคดี คักโป
- ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: ดาบิด เด เคอา (GK), ดิโอโก ดาโลต์, ราฟาเอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์, คาเซมีโร, เฟร็ด กองหน้า : อ็องโตนี่, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, โวเอต์ เวกัส
ลิเวอร์พูล 7-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด [รายงานการแข่งขัน] – วิดีโอไฮไลท์ โซเชียลเหน็บ “บรูโน” พร้อมใจชม 1 ในแข้งแมนยูฯ ระดมพลกลับมารับผิดต่อหน้าแฟนบอล
วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม 2566 ควันหลงจากเกมเมื่อคืนที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 7-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้คนพยายามเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที มีคลิปที่แสดงให้เห็น ราฟาเอล วาราน ปราการหลังตัวเก่งของทีม พยายามให้ทุกคนกลับมาขอบคุณแฟนบอลที่มาเยือนแอนฟิลด์ รวมกับอีกหลายพันชีวิตที่แม้จะแพ้แต่ก็ได้ใจแฟนบอลไปมากมายจากเหตุการณ์นี้ อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าต้องมีคำชม ซึ่งบรูโน่ แฟร์นานเดส กัปตันทีมในเกมนี้ถูกมองว่าพยายามเดินหนี จากแฟนเข้าห้อง. การแต่งตัวทำให้เขาโดนด่าเยอะมาก ทั้งฟอร์มการเล่นในเกมนี้ที่ไม่เข้าตาแฟนบอลและแอคชั่นหลังเกมอีกด้วย แม้จะแพ้ในเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังรั้งอันดับ 3 มี 49 แต้ม ตามหลัง อาร์เซน่อล จ่าฝูง 14 แต้ม แต่ก็ยัง เหลืออีก 1 เกมให้เล่น
