แนะนำทีม ฟุตบอลโลก กาตาร์ 2022 พบกับแชมป์เก่า “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส กับภารกิจป้องกันแชมป์ ซึ่งยากกว่าการคว้าแชมป์หลายเท่าตัว!!
ผลงานที่ผ่านมา
ทีมชาติฝรั่งเศสบินมายังกาตาร์ พร้อมกับพกพาดีกรี “แชมป์เก่า” ติดตัวมาด้วย หลังจากพวกเขาได้ฉลองแชมป์โลก เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ต่อจากสมัยแรกเมื่อปี 1998 ซึ่งพวกเขาเป็นเจ้าภาพนั่นเอง
ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ทีมตราไก่จะต้องเผชิญกับคำกล่าวที่ว่า “การรักษาแชมป์นั้นยากกว่าการคว้าแชมป์เสมอ” ซึ่งต้องติดตามดูว่า พวกเขาจะทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน เพราะทัวร์นาเมนต์ใหญ่ก่อนหน้านี้อย่าง “ยูโร 2020” ฝรั่งเศสจอดป้ายเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น
ส่วนผลงานในรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2022 ทัพนักเตะเลือดน้ำหอมลอยลำเข้ามาแบบไม่ยากเย็น หลังจากคว้าแชมป์กลุ่มดี โซนยุโรป ด้วยผลงานลงสนาม 8 นัด ชนะ 5 เสมอ 3 และไม่แพ้ใครเลย
กุนซือและผู้เล่นต้องจับตา แม่ทัพของฝรั่งเศสยังคงเป็น ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือจากชุดแชมป์โลกเมื่อ 4 ปี ก่อน โดย เดส์ชองส์ เข้ามารับงานคุมทัพ “เลอ เบลอส์” ตั้งแต่ปี 2012 นั่นหมายความว่า ฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นเวลาครบ 10 ปีพอดิบพอดีสำหรับ เดส์ชองส์ กับทีมชาติฝรั่งเศส
และไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของเขากับทีมตราไก่ เนื่องจาก เดส์ชองส์ มีสัญญาคุมทีมถึงสิ้นปีนี้ พร้อมกับมีข่าวหนาหูว่า ซีเนอดีน ซีดาน อีกหนึ่งตำนานแข้งน้ำหอม ถูกวางไว้ให้เป็นตัวแทนที่จะเข้ามารับช่วงต่อจากเดส์ชองส์
ทีมชาติฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022
ส่วนผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็นคีย์แมนความหวังของฝรั่งเศสในฟุตบอลโลกคราวนี้ ต้องยกให้คู่หัวหอกต่างวัยอย่าง คาริม เบนเซม่า ดาวยิงจอมเก๋าจากเรอัล มาดริด ซึ่งระเบิดฟอร์มร้อนแรงในวัย 34 กะรัต หลังจากกระหน่ำไป 44 ประตูจาก 46 นัดในทุกรายการของซีซั่น 2021/22 และอีกคนคือ คิลียัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าความเร็วสูงวัย 23 ปีจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง เจ้าของรางวัล “นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม” จากศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย
วิเคราะห์โอกาสเข้ารอบ
ทีมชาติฝรั่งเศส อยู่ในกลุ่มดี ร่วมกับ ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก และ ตูนีเซีย ซึ่งดูจากชื่อชั้นแล้ว หากไม่พลิกล็อกฟ้าถล่มดินทะลาย ทัพตราไก่น่าจะตบเท้าเข้ารอบได้ไม่ยาก และน่าจะตีตั๋วเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มอีกด้วย
ทีมชาติฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022
ทั้งนี้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมจากกลุ่มดี จะไขว้ไปเจอกับทีมกลุ่มซี ที่ประกอบด้วย อาร์เจนตินา, ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก และ โปแลนด์ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ทีม “ฟ้าขาว” จะคว้าแชมป์กลุ่มซี ดังนั้นทั้ง ฝรั่งเศส และ อาร์เจนตินา ต้องพยายามเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มให้ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการโคจรมาปะทะกันเองตั้งแต่รอบนี้ หาก ฝรั่งเศส เข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม และเข้าไปเจอรองแชมป์กลุ่มซี ซึ่งอาจจะเป็นเม็กซิโก, โปแลนด์ หรือซาอุฯ ขุนพล “เลอ เบลอส์” น่าจะฝ่าด่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ ซึ่งหลังจากนั้นต้องลุ้นกันว่า ลูกทีมของดิดิเยร์ เดส์ชองส์ จะเจอกับใครเป็นด่านต่อไป อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพทีม และศักดิ์ศรีแชมป์เก่า อย่างน้อยๆ พวกเขาต้องทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือกให้ได้ ส่วนจะสามารถป้องกันบัลลังก์แชมป์โลกเอาไว้ได้หรือไม่นั้น คงต้องไปลุ้นหน้างานเอาอีกที
